สำหรับคุณแม่มือใหม่…การที่เด็กๆ ซุกซนคงเป็นเรื่องปวดหัวไม่ใช่น้อยเลยใช่มั้ยล่ะคะ?
แต่ถ้าเรามาลองมองอีกมุมหนึ่ง ก็เหมือนว่าเราได้ดูพัฒนาการของเด็กๆ ที่เจริญเติบโตไปตามวัยของเขาไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องซุกซนของเด็กๆ ก็มักจะมาพร้อมกับเรื่องที่คาดไม่ถึง ซึ่งสาเหตุหนึ่งก็มักจะมาจากการละเลยของคุณพ่อ คุณแม่ ด้วยเช่นกัน และอาจจะนำพามาซึ่งเรื่องอันน่าเศร้าดังที่เราเห็นจากในข่าวต่างๆ ก็เป็นได้ค่ะ
ในครั้งนี้ “อบอุ่น” จึงขออาสาพาคุณแม่มือใหม่รวมไปถึงคุณแม่มือเก่า มาลองตรวจสอบพฤติกรรมของเรากันค่ะ โดยจะเริ่มจากการตรวจสอบพฤติกรรมในเรื่องใกล้ตัวของเรา อย่าง เรื่องภายในบ้านกันก่อนเลย ซึ่งใน 7 พฤติกรรมเสี่ยงใกล้ตัวที่เราอยากจะนำมาเตือนคุณแม่ในครั้งนี้จะมีอะไรบ้างนั้น เราไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
1. ปลั๊กไฟ
ปลั๊กไฟเป็นสิ่งพึงควรระวังเป็นอันดับต้นๆ ภายในบ้านเลยล่ะค่ะ เนื่องจากว่าปลั๊กไฟจะอยู่ในระดับที่พอดีกับเด็กเล็ก ซึ่งก็ง่ายต่อการที่บางครั้งเด็กจะนำนิ้วไปแหย่ในปลั๊กและทำให้ไฟดูดได้
วิธีป้องกัน
ลองหาตัวอุดรูปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐานมาใช้อุดรูปลั๊กที่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อป้องกันเด็กๆ นำนิ้วไปแหย่ในรูปลั๊กไฟ และควรสอนให้เด็กๆ ได้รับรู้ถึงอันตรายของปลั๊กไฟ
2. ชั้นวางของ
ชั้นวางของที่เราใช้กันอยู่ในบ้านอาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ดูไม่น่ามีอันตรายใดๆ แต่จริงๆ แล้วเคยเกิดเหตุน่าสลดจากการที่ชั้นวางของล้มลงมาทับ ซึ่งสาเหตุก็มาจากการที่เด็กๆ ไปปีนป่าย และยิ่งมีชั้นวางที่สูงเท่าไหร่หากไม่ยึดติดไว้กับผนังก็ยิ่งอันตรายเท่านั้น
วิธีป้องกัน
ควรยึดตู้ให้ติดกับผนังด้วยน็อตหรือตะปู เพื่อป้องกันการที่เด็กๆ ปีนป่ายขึ้นไปบนตู้และทำให้ตู้ล้มลงมาทับได้ ถ้าหากมีสิ่งของที่หนักวางไว้บนตู้ก็ควรหาอุปกรณ์ยึดสิ่งของนั้นไว้ เพื่อกันการหล่นลงมาทับด้วยเช่นกันค่ะ
3. ของมีคม
ของมีคมแน่นอนว่าสามารถก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่ แต่สำหรับในเด็กแล้วอัตราการเกิดอันตรายก็จะยิ่งมากขึ้น ถ้าหากผู้ปกครองประมาทเลินเล่อในการเก็บรักษาในขณะที่ไม่ได้ใช้งานหรือกำลังใช้งานอยู่
วิธีป้องกัน
ควรวางของมีคม เช่น มีดปอกผลไม้ , ส้อมแหลม ในชั้นหรือตู้ที่สูง เพราะถ้าหากเก็บไว้ในระดับที่เด็กสามารถหยิบเองหรือปีนป่ายเพื่อหยิบได้ เด็กๆ ก็อาจจะนำมาเล่นและเกิดอันตรายตามมาได้ค่ะ
4. สารเคมี
ผลิตภัณ์สำหรับทำความสะอาด เช่น ผงซักฟอก , น้ำยาทำความสะอาดพื้น , น้ำยาล้างจาน , น้ำยาฆ่าเชื้อ หรือกระทั่ง ยาฆ่าแมลงและยากันยุง ล้วนที่เป็นสารเคมีที่ร้ายแรง ซึ่งถ้าหากไม่วางให้ถูกที่อาจทำให้เด็กเข้าใจผิดและหยิบมารับประทานและอาจทำให้อันตรายถึงแก่ชีวิตได้
วิธีป้องกัน
ทุกครั้งหลังใช้งานควรปิดฝาให้สนิท และเก็บไว้ในบริเวณที่เด็กๆ เอื้อมหรือปีนป่ายไม่ถึง อีกทั้งยังไม่ควรนำขวดน้ำยาแต่ละชนิดวางซ้อนกัน หรือวางแน่นชั้นจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ขวดที่เก็บสารเคมีหล่นลงมาแตกหรือหล่นใส่ในขณะที่กำลังหยิบมาใช้งานได้
5. อ่างอาบน้ำ
ชั่วโมงอาบน้ำที่แสนสนุก อาจจะเป็นชั่วโมงที่แสนน่าเศร้าได้ถ้าหากผู้ปกครองปล่อยให้เด็กๆ อาบน้ำหรือเล่นน้ำไปตามลำพัง เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าในขณะที่เด็กๆ กำลังสนุกสนานกับการอาบน้ำอาจจะเสียหลักลื่นล้มเสียหลักหัวจุ่มลงไปในอ่างอาบน้ำ และเกิดการจมน้ำได้
วิธีป้องกัน
ไม่ควรละสายตาหรือปล่อยปละละเลยให้เด็กๆ อาบน้ำ หรือเล่นน้ำ เพียงตามลำพังเด็ดขาด ควรมีผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองคอยดูแลอยากใกล้ชิด เพราะถึงแม้ว่าเรื่องเช่นนี้โอกาสอาจจะเกิดได้น้อย แต่ก็ควรป้องกันไว้ก่อนดีกว่าแก้ค่ะ
6. เครื่องใช้ไฟฟ้า
สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด อย่างเช่น เครื่องทำน้ำร้อน , เตารีด , เครื่องหนีบผม ก็สามารถก่ออันตรายให้กับเด็กๆ ได้เช่นกัน เพราะถ้าหากจัดเก็บไม่ดี เด็กๆ อาจจะถูกน้ำร้อนลวกหรือความร้อนจากตัวเครื่องลวกได้นั่นเอง
วิธีป้องกัน
ไม่ควรวางเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความร้อน ทิ้งไว้ในระดับที่เด็กสามารถเอื้อมไปหยิบจับเองได้ แต่ควรวางไว้ในที่สูงและรอให้คลายร้อนจากนั้นจึงเก็บเข้าที่ให้มิดชิด เพื่อป้องกันเด็กเอื้อมมือไปหยิบจับและโดนความร้อนลวก
7. คาร์ซิท
ในการเดินทางไปละที่บางครั้งผู้ปกครองบางท่านก็ให้บุตรหลานนั่งตักหรือว่าอุ้มอยู่ที่อ้อมแขนใช่มั้ยล่ะคะ แต่รู้หรือไม่คะ? ว่านั่นคือสัญญาณอันตรายที่อาจเกิดกับบุตรหลานของคุณได้ ซึ่งเราไม่สามารถคาดการณ์อุบัติเหตุในการเดินทางไม่ว่าใกล้หรือไกลได้เลย และถ้าหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เช่น การเบรคกระทันหันจากการเกิดอุบัติเหตุ อาจทำให้เด็กไม่ได้นั่งคาร์ซิทกระเด็นออกไปนอกตัวรถและเสียชีวิตได้ค่ะ
วิธีป้องกัน
การซื้อที่นั่งคาร์ซิทสำหรับเด็กอาจจะยังเป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับคุณแม่บางท่าน แต่จริงๆ แล้วนั้นในต่างประเทศค่อนข้างเข้มงวดกับการใช้คาร์ซิทถึงกับตั้งเป็นกฏหมายทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน โดยคาร์ซิทจะมีตั้งแต่ราคาตั้งแต่ 4,000 บาท ไปจนถึงราคาหมื่นบาท แต่ถ้าหากคุณแม่มีงบประมาณไม่มากก็มีคาร์ซิทมือ 2 ที่มีราคาถูกและคุณภาพดีให้ได้เลือกซื้อ ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่เล็กน้อย แต่กลับป้องกันชีวิตของลูกรักของเราได้
จากพฤติกรรมทั้ง 7 ที่กล่าวมาในข้างต้นนี้ เป็นแค่เพียงบางตัวอย่างของพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายที่เสี่ยงถึงชีวิต แต่ทั้งนี้ยังมีอีกหลายๆ พฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายในรูปแบบต่างๆ ได้เช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนั้นล้วนควรอยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงการตระหนักถึงอันตรายของผู้ปกครอง ซึ่งจะทำให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดต่างๆ เหล่านั้นได้ค่ะ