แพ้ท้อง หรือ อาการแพ้ท้อง (Morning sickness) เป็นความรู้สึกที่ไม่สุขสบายของสตรีที่เริ่มตั้งครรภ์ มักมีอาการ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ไม่อยากอาหาร มีน้ำลายมากกว่าปกติ แต่อาการเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่ออายุครรภ์มากกว่า 3 เดือน
อาการแพ้ท้องนั้นไม่มีสาเหตุและที่มาแน่ชัด แต่ส่วนมากเชื่อว่าเกิดการฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงขณะที่กำลังตั้งครรภ์ และอีกปัจจัยหนึ่งก็อาจมาจากสภาพจิตใจที่มักพบในผู้ที่มีจิตใจอ่อนไหวง่าย ซึ่งอาจเกิดจากการเรียกร้องความสนใจจนทำให้เกิดอาการแพ้ท้องโดยไม่รู้ตัว หรือเกิดจากการที่คุณแม่เป็นคุณแม่ครรภ์แรกก็มีอาการแพ้ท้องได้เช่นกัน
แต่วิธีการที่จะดูแลตัวเอง เมื่อมีอาการแพ้ท้องอย่างไรบ้างนั้น วันนี้ “อบอุ่น”
จะมาแนะนำ “7 เทคนิควิธีง่ายๆ เพื่อเอาขนะอาการแพ้ท้องสำหรับว่าที่คุณแม่”
ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ท้องแรกหรือคุณแม่ท้องสอง ที่มีอาการก็สามารถไปใช้กันได้เลยค่ะ เริ่มด้วยวิธีแรก!
1. งดหรือลดอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอด อาหารผัด
เนื่องจากอาหารเหล่านี้จะส่งผลต่อน้ำหนักตัว รวมไปถึงโรคเบาหวานและการทำงานของระบบภายในร่างกาย อบอุ่นขอแนะนำให้คุณแม่หันมารับประทานอาหารอ่อนๆ หรืออาหารประเภทต้ม นึ่ง จะดีกว่าค่ะ อีกทั้งคุณแม่ตั้งครรภ์มีแนวโน้มจะเป็นกรดไหลย้อน ซึ่งอาจส่งผลทำให้เกิดอาการพะอืดพะอมได้
2. รับประทานผักและผลไม้ให้มากๆ
รสชาติเปรี้ยวๆ ของผลไม้นอกจากจะทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายจากอารมณ์ รวมไปถึงฮอร์โมนที่แปรเปลี่ยนแล้ว ประโยชน์ของผัก ผลไม้เหล่านี้ก็ยังช่วยให้คุณแม่ขับถ่ายได้คล่องขึ้นอีกด้วยค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงผลไม้รสหวาน อย่างเช่น ทุเรียน ลำไย มะม่วงสุก หรือทานแต่ในปริมาณน้อยๆ และเหมาะสมนะคะ
3. กลิ่นหอมอ่อนๆ จากธรรมชาติก็ช่วยคุณแม่ได้นะคะ
การดมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากธรรมชาติ เช่น กลิ่นสมุนไพร กลิ่นของดอกไม้ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น หรือจะเป็นกลิ่นน้ำมันที่สกัดจากธรรมชาติที่คุณแม่ชื่นชอบและรู้สึกดีกับกลิ่นนั้น เพราะจะช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายและช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ อีกทั้งยังทำให้ไม่เครียดด้วยค่ะ ซึ่งอาจจะนำมาดมโดยตรงหรือจุดกลิ่นให้หอมภายในห้องก็ได้เช่นกัน
4. ไม่ควรดื่มเหล้า หรือสูบบุหรี่เด็ดขาด!
สำหรับการดื่มเหล้า หรือสูบบุหรี่ แน่นอนว่ามีผลเสียทั้งต่อคุณแม่และเด็กในครรภ์ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องเฉพาะคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องเท่านั้น แต่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือมีลูกเล็กก็ไม่ควรเช่นกันค่ะ เพราะจะส่งผลทั้งต่อระบบหายใจ พัฒนาการของเด็ก รวมไปถึงความเครียดที่อาจสะสมโดยไม่รู้ตัว ฉะนั้นจึงเป็นข้อห้ามที่คุณแม่ทุกท่านไม่ควรกระทำอย่างยิ่งเลยค่ะ
5. ทำจิตใจให้สงบ ไม่เครียด
การทำจิตใจให้สงบ ไม่เครียด อาจทำได้ด้วยการนั่งสมาธิ การอ่านหนังสือ หรือผ่อนคลายด้วยการฟังเพลง การทำขนม รวมไปถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้คุณแม่ไม่รู้สึกตึงเครียดจนเกินไป เพราะหากปล่อยให้มีอาการเครียดหนักมากๆ อาการแพ้ท้องก็อาจจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นได้ค่ะ ฉะนั้น หากเราอยากชนะ เราจะต้องหากิจกรรมทำให้ไม่เครียดกันนะคะ
6. ออกไปเดินเล่น หรือเดินไปเดินมาบ้าง
การออกไปเดินเล่น หรือเดินไปเดินมาบ้าง ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้เช่นกันค่ะ และยังทำให้คุณแม่ได้ขยับเส้นสายอีกทั้งยังได้ไปสูดอาการสดชื่นด้านนอก ได้รับวิตามินอ่อนๆ ให้กับร่างกาย และของแถมจากการออกไปข้างนอกก็อาจจะได้พบปะพูดคุยกับเพื่อนบ้านเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอีกด้วย
7. พักผ่อนให้เพียงพอ
สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ไม่ควรนอนดึก และควรหาเวลางีบพักระหว่างวันบ้าง ไม่ควรฝืนตัวเองทำงานจนเกินไปหรือออกกำลังกายหนักมากเกินไป เพราะอาจจะยิ่งทำให้เครียดง่ายและฮอร์โมนนั้นเปลี่ยนอย่างรวดเร็วจนเกิดอาการแพ้ท้องขึ้นมาได้ค่ะ ทางที่ดีคุณแม่ควรเข้านอนแต่หัวค่ำและนอนหลับให้สนิท
หากคุณแม่สามารถทำได้ทั้ง 7 วิธี ที่กล่าวมาในข้างต้นนี้ อบอุ่นเชื่อว่าเด็กในครรภ์ก็จะมีพัฒนาการที่ดีตามลำดับ เพราะมีคุณแม่ที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงและจิตใจที่แจ่มใสไม่เครียด ซึ่งอาการแพ้ท้องที่ว่าจะต้องยอมสยบให้อย่างแน่นอน! หรือช่วยบรรเทาได้บ้างนะคะ
ขอบคุณแหล่งที่มาอ้างอิง : อาการแพ้ท้อง