Shea Butter คืออะไร และดีอย่างไร

Shea Butter ได้จากการสกัดผลของต้น Kariteในทวีปอัฟริกาตะวันตก ซึ่่งแปลตรงตัวว่า ต้นไม้แห่งชีวิต (Tree of Life)

ต้น Karite ขึ้นตามธรรมชาติในแถบอัฟริกาตะวันตกและเป็นพืชที่ปลูกไม่ขึ้น ออกดอกระหว่างเดือน มิถุนายน – เดือนกรกฎาคมให้ผลสีเขียวแก่คล้ายอโวคาโดซึ่งจะ ร่วงลงมาเองเมื่องอมเต็มที่ ภายในผลจะมีเมล็ด ซึ่งส่วนในของเปลือกเมล็ด (kernel) จะเป็นส่วนที่แข็ง สีขาวและเป็นส่วนที่ให้ Shea Butter มีเนื้อเหนียวนุ่ม คล้ายเนย ซึมซาบสู่ผิวได้ดี

แม้ว่าไม้หลายชนิดจะให้น้ำมันและบัตเตอร์แต่ Shea Butter จะต่างตรงที่จะมี 2 ส่วน คือส่วนที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว (moisturizing fraction) และส่วนที่ให้ผลทางการรักษา (healing fraction) ซึ่งจะกระตุ้นเซลล์ผิวหนังให้เพิ่มประสิทธิภาพกักเก็บความชื้น

ส่วนให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว :

Shea Butter จะซึมผ่านผิวหนังได้อย่างรวดเร็วทำให้ผิวนุ่มและเนียนขึ้นโดยไม่รู้สึกเหนอะหนะ เพื่อให้ได้ผลสูงสุดจากวัตถุดิบธรรมชาติชนิดนี้ ควรจะทาผิวบางๆทุกวัน ใช้เวลาสักเล็กน้อยเพื่อให้ Shea Butter ซึมซาบเข้าผิวหนังโดยการคลึงเป็นรูปวงกลมไปทั่วๆ

ส่วนที่มีผลทางการรักษา :

เมื่อเราอายุมากขึ้นเซลล์ผิวหนังจะเป็นรูมากขึ้นและยืดหยุ่นน้อยลง เมื่อใช้ Shea Butterซึ่งจะเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและทำให้เซลผิวหนังกลับมายืดหยุ่นดังเดิม และเมื่อใช้อย่างสม่ำเสมอเซลล์ผิวจะปล่อยให้ความชื้นซึมผ่านเซลล์เข้ามาใน ขณะเดียวกันก็จะรักษาความชื้นให้คงอยู่ได้ดีขึ้น

คุณค่าทางโภชนาการ :

กล่าวได้ว่า Shea Butter คือ ครีมวิตามินเอจากธรรมชาติแท้ๆ 100% ซึ่งเป็น moisturizer ที่สุดยอด น้ำมันเชียร์เสมือนสมุนไพรชนิดพิเศษที่ให้วิตามิน A, D, E, F, โปรตีนและใยอาหาร

ใครบ้างควรจะใช้ Shea Butter :

คำตอบคือ ทุกคน ทุกๆบ้านควรจะมี Shea Butter ครีมสารพัดประโยชน์ติดบ้านไว้สัก 1 กระปุก ไม่ว่าจะเอาไว้ใช้เป็นครีมบำรุงผิวเป็น moisturize หรือครีมหน้าใส ลดรอยเหี่ยวย่นหรือจะใช้สำหรับรักษาอาการทางผิวเล็กๆน้อยๆ แมลงสัตว์กัดต่อยโดยไม่มีอันตราย Shea Butter คือเพื่อนที่ดีที่สุดของผิวหนังแต่ควรเป็น shea butter ที่เกิดจากธรรมชาติ 100% ถึงจะให้ประสิทธิภาพดีที่สุดและไม่เป็นอันตรายและก่อให่เกิดการระคายเคือง

Shea Butter จะทำให้อาการต่างๆ ตามที่แจ้งข้างล่างดีขึ้นได้

  1. ผิวแห้ง (Dry skin)
  2. ผดหรือผื่นแดง (Skin rash)
  3. ผิวหนังลอกหลังโดนแดด (Skin peeling, after tanning)
  4. รอยช้ำและรอยย่น (Blemishes and wrinkles)
  5. อาการคัน (Itching skin)
  6. แดดเผา (Sunburn)
  7. ใช้เป็นครีมโกนหนวด (Shaving cream)
  8. ผิวหนังแตก (Skin cracks)
  9. แผลเล็กๆบนผิวหนัง (Small skin wounds)
  10. ผิวเท้าหยาบหนา (Tough and rough skin on feet)
  11. ใช้เมื่ออากาศเย็น (Cold weather)
  12. หิมะกัด (Frost bites)
  13. ป้องกันหน้าท้องลาย (Stretch mark prevention during pregnancy)
  14. แมลงกัดต่อย (Insect bites)
  15. ปรับปรุงสภาพผิวที่สุขภาพดีอยู่แล้ว (Healthy skin)
  16. กล้ามเนื้อล้า ปวดหรือตึง (Muscle fatigue, aches and tension)
  17. ก่อนและหลังออกกำลังกาย (Before and after strenuous exercise)
  18. อาการแพ้ทางผิวหนัง (Skin allergies)
  19. ผื่นคัน (Eczema)
  20. ผิวหนังอักเสบ (Dermatitis)
  21. ผิวหนังโดนลวกด้วยความร้อน (Skin damage from heat e.g. hot grease while cooking)

วิธีการใช้ :

ทาส่วนใดก็ได้ตามต้องการ ทาบางๆ

– บำรุงรอบดวงตา : ทาใต้ดวงตา ไม่จำเป็นจะต้องหนามาก หลังสกินแคร์ที่ใช้ประจำ (shea butter ไม่ได้เป็น eye cream โดยเฉพาะนะคะ แต่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นและเป็นส่วนผสมหนึ่งของ eye cream หลายๆตัว)

– บำรุงส่วนแห้งกร้าน : นวดวนๆ ได้ทุกเวลาตามต้องการ ที่ข้อศอก เข่า ข้อเท้า วิธีเก็บรักษา : shea butter ก็ง่ายๆ คือเก็บไว้ในอุณหภุมิห้อง ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในตู้เย็น ถ้าในห้องร้อนๆ มากๆ ก็ไม่ต้องกังวล เอาไปแช่ตู้เย็นให้แข็งก็ได้แล้ว ยังไง shea butter ก็ไม่เสื่อมค่ะ

เชีย บัตเตอร์ทานได้หรือไม่ : เนื้อครีมละลายเหมือนเนย หอม มัน แต่ไม่หวาน ส่วนกลิ่นเป็นกลิ่นครีมธรรมชาติ ถ้าเอาไปปรุงแต่งอีกเล็กน้อย เหมือนช๊อกโกแลตขาว

ประโยชน์ของเชีย บัตเตอร์ (Shea Butter)

  • ทำให้ผิวเรียบเต่งตึง
  • แร่ธาตุต่างๆ ที่อยู่ในเชียร์บัตเตอร์จะถูกดูดซึมเข้าผิวอย่างรวดเร็ว
  • เข้าดูแลถึงชั้นผิวในสุด ช่วยฟื้นฟูให้ผิวยืดหยุน อีทั้งปกป้องเซลล์ผิวที่ถูกทำลาย ผิวแห้ง ผิวแตก และช่วยลบรอยเหี่ยวย่น
  • กระตุ้นเซลล์ผิวให้มีชีวิตชีวา ต่อสู้กับอิทธิผลของความชราและซ่อมแซมผิวที่หยาบกร้าน ผิวที่เสีย
  • ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน
  • ฟื้นฟู บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวนิ่ม นวล
  • ช่วยฟื้นฟูผิวจากรอยแผลเป็น ต่อต้านการอักเสบจากรอยแผล
  • ใช้รักษาสภาวะการอักเสบของโรคผิวหนังที่เป็นแบบเฉียบพนันหรือเรื้อรัง มีลักษณะเป็นผื่นแดง แผลพุดพอง ลมพิษ ผิวแห้งมาก และบรรเทาอาการระคายเคืองจากโรคผิว หนัง
  • ช่วยบรรเทาการระคายเคืองภายหลังจากการโกนหนวด
  • ช่วงปกป้องรังสีจากแสงแดดและผิวที่ถูกแสงแดดเผาและภาวะสิ่งแวดล้อมตามธรรม ชาติ
  • บำรุงรากผม
  • มอยเจอร์ไรซ์ให้ความชุ่มชื้นมีชีวิตชีวาแก่เส้นผม ให้ผมหนานุ่มอีกทั้งปรับปรุงให้ผมมันแวววาวและจัดทรงง่าย
  • ช่วยป้องกันผมที่อ่อนแอจากการดัดย้อม หรือเปลี่ยนสีผม และช่วยกระตุ้นการเจริญเติบ โตของเส้นผม

Comments